การตั้งโปรเจค พีร์เมียร์ สำหรับ Facebook / youtube พิมพ์
เขียนโดย Administrator   
วันพุธที่ 03 สิงหาคม 2016 เวลา 16:37 น.

ตอนที่  2 การตั้งโปรเจค แบบ HDV ไม่ full 1440 X 1080  และขนาด size ต่ำกว่า Full HD ลงไป

1. เลือกช่อง HDV ตัวแรก   HDV 1080  จะได้ขนาด size ภาพใหญ่เต็มที่  1440 X 1080 เท่านั้น - ไม่เป็น Full HD

alt

 Editing mode: HDV 1080i
 Timebase: 25.00fps

Video Settings
 Frame size: 1440h 1080v (1.3333)
 Frame rate: 25.00 frames/second
 Pixel Aspect Ratio: HD Anamorphic 1080 (1.333)
 Fields: Upper Field First

Audio Settings
 Sample rate: 48000 samples/second

Default Sequence
 Total video tracks: 3
 Master track type: Stereo
 Audio Tracks:
 Audio 1: Standard
 Audio 2: Standard
 Audio 3: Standard

2.เลือกไปที่ HDV 720p  ขนาดที่ได้ คือ 1280 X 720  ใช้กับการส่งเข้า youtube

ไฟล์จะได้ ไม่ใหญ่มาก โหลดได้เร็ว ขึ้น

alt

General
 Editing mode: HDV 720p
 Timebase: 25.00fps

Video Settings
 Frame size: 1280h 720v (1.0000)
 Frame rate: 25.00 frames/second
 Pixel Aspect Ratio: Square Pixels (1.0)
 Fields: No Fields (Progressive Scan)

Audio Settings
 Sample rate: 48000 samples/second

Default Sequence
 Total video tracks: 3
 Master track type: Stereo
 Audio Tracks:
 Audio 1: Standard
 Audio 2: Standard
 Audio 3: Standard

 

3. การตั้งโปรเจค สำหรับ Facebook ซึ่งออกแนวเป็นสี่เหลี่ยนเท่ากันทุกด้านหรือกำหนดสัดส่วนเองเลยก็ได้

เปิด New project  เลือกที่เก็บแล้ว  ตั้งชื่อ

alt

3.1. แถบ Sequence Presets   ให้ไปที่ Custom

alt

3.2. เลือกแถบเมนูบนที่  Setting เลือกตั้งขนาดได้ตามใจชอบ  ในช่อง Editing mode= Custom

Video :พิมพ์ขนาดใส่ลงไป โดยให้ดูสัดส่วนของมือถือต่างตามลิงค์นี้ การตั้งขนาดโปรเจค ตัดต่อ ลงโทรศัพท์

alt

 

 *** ถ้าไม่ใช่ full  HD 1920 x 1080  แล้ว  ปกติแล้วเราก็เลือกตั้งอยู่แค่นี้แหละครับ

ในประเทศไทยเรา ใช้ 25 P เป็นระบบอยู่แล้ว ในกล้องก็ต้องเป็น 1080i  ระบบเป็น 25 เส้น PAL

ซึ่งมีให้เลือกในกล้องถ่ายภาพและวิดีโอ**** -ส่วนการตั้ง โปรเจค อ่านได้ในลิงค์ด้านล่างครับ

ตอนที่ 1 การตั้งแบบ Full HD - สำหรับผู้ลงทะเบียนเท่านั้นครับ 

Full HD คือขนาด 1920 X 1080  ออกอากาศด้วย การสแกนภาพแบบ i ระบบ PAL 25 

Code ออกอากาศ คือ XDCAM หรือ MXF  - Proress  422 * Apple

ถ้าใช้ Final cut Pro X ตัดต่อ ก็ส่งออกได้เลย - ถ้าใช้ Adobe Premiere ตัดต่อใน Mac 

ให้ลงโปรแกรม Fcpx ลงไป ก็จะได้โค๊ดนี้

ส่วนผู้ที่ตัดต่อด้วย Windows ไม่สามารถ ทำโค๊ดนี้ได้ ต้องไปจ้างแปลงด้วย MAC ครับ

 ดังนั้น จึงพอจะเข้าใจแล้วว่าทำไม เราถึงแนะนำ ให้ใช้ FCPX ในการตัดต่อ

-ซึ่งการทำงานและการเรนเดอร์ไฟล์ FCPX ก็ไวกว่า Premiere ดังที่ได้ลงบทความไปแล้วครับ

แก้ไขล่าสุด ใน วันพฤหัสบดีที่ 21 ธันวาคม 2017 เวลา 21:14 น.